Tag: ครีมกันแดด

ในปัจจุบันโลกของเราร้อนขึ้นทุกวัน แสงแดดที่ส่องลงมายังเป็นตัวการที่ทำลายผิวของเราอีกทำให้ผิวขิงเรานั้นไหม้ คล้ำเสีย เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำต่างๆ และที่สำคัญยังทำให้เราแก่กว่าวัยอันควนด้วยความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งผิวหนังก็มีเพิ่มมากขึ้น จึงจำเป็นต้องหาตัวช่วยก่อนออกจากบ้านและตัวช่วยที่ดีที่สุดนั้นก็คือครีมกันแดดนั้นเอง รู้หรือว่าทำไมจึงต้องเป็นครีมกันแดด วันนี้เราจึงมีข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับข้อดีของการใช้ครีมกันแดดมาฝากทุกคนให้ได้มาศึกษาหาความรู้แล้วนำไปใช้เป็นแนวทางในการตัดสินใจว่าควรใช้ไม่ใช้ครีมกันแดดกันดี อยากรูแล้วใช่ไหมละว่าครีมกันแดดมีข้อดีอย่างไรถ้าอย่างนั้นอย่ารอช้าเราไปดูกันเลยดีกว่า

ข้อดีของครีมกันแดด

ข้อดีของครีมกันแดดนั้นมีเยอะแยะมากมายอย่างแรกเลยก็ตามชื่นนั้นแหละคือช่วยป้องกันการทำลายเซลล์ผิวหนังจากรังสีอุลตร้าไวโอเลตในแสงแดดซึ่งรังสีตัวนี้เป็นสาเหตุสำคัญของโรคมะเร็งผิวหนังนั้นเอง ครีมกันแดดนั้นมี 3 ประเภท ประเภทแรกนั้นคือ Chemical Sunscreen เป็นครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของสารเคมีที่สามารถป้องกันแสงแดดโดยการดูดซับรังสีที่มาจากแสงแดดเข้าไว้ในผิว แต่ต้องทาทุก 2-3 ชั่วโมงเพราะสารเคมีเหล่านี้จะเสื่อมสภาพนั้นเอง และถ้าหากเราเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงเท่าไหร่สารเคมีก็จะมากขึ้นเท่านั้นอาจจะทำให้ผิวเราเกิดการระคายเคืองได้ดังนั้นควรเลือกพอประมาณจะดีกว่า ประเภทที่สองคือ Physical Sunscreen ก็เป็นครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของสารเคมีเช่นเดียวกันแต่เป็นสารเคมีที่สามารถสะท้อนรังสี UVA และ UVB ออกไปจากผิวหนังของเราได้สารเคมีกลุ่มนี้จะมีผลระคายเคืองน้อยกว่ากลุ่มแรก ต่อมาประเภทสุดท้ายคือ Chemical- Physical Sunscreen ประเภทสุกท้ายนี้จะลดการระคายเคืองผิวหนังจากสารเคมีและลดความขาวของครีมได้เป็นอย่างดี และยังเสริมประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดดที่จะเข้ามาทำลายผิวเราได้ดี และข้อดีของครีมกันแดดอีกอย่างหนึ่งที่หลายๆ คนนั้นอาจยังไม่รู้คือการป้องกันรังสีจากหลอดไฟ เพราะหลอดไฟก็มีรังสี UV ที่สามารถเล็ดลอดออกมาทำลายผิวองเราได้เช่นกันกับแสงแดด

รู้หรือไม่ว่าค่า SPF นั้นบ่งบอกอะไรหลายๆ คนเข้าใจผิดว่าถ้าค่า SPF สูงจะสามารถป้องกันแสงแดดได้ดีกว่าแต่บอกเลยว่าคุณเข้าใจผิดเพราะค่า SPF ของครีมกันแดดนั้นบ่งบอกถึงความยาวนานของการป้องกันหากค่า SPF สูงเท่าไหร่ก็สามารถป้องกันได้ยาวนานตามระดับเท่านั้นนั้นเองไม่ใช่ป้องกันได้ดีกว่า หากครีมกันแดดที่มีค่า SPF ต่ำก็แค่ทาซ้ำบ่อยๆ เท่านั้นเอง

ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์เสริมความงามออกมาวางขายตามท้องตลาดมากมายค่ะ ซึ่งล้วนแล้วแต่ให้ประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไปตามลักษณะของการใช้งาน เพราะฉะนั้นครีมกันแดดก็เช่นเดียวกันค่ะ ถ้าหากเราเลือกซื้อครีมกันแดดมาใช้ไม่ตรงกับคุณภาพและประสิทธิภาพที่ควรจะเป็นก็จะทำให้เสียเงินซื้อโดยเปล่าประโยชน์ เพราะฉะนั้นเราจึงนำเอาอีกหนึ่งวิธีการเลือกซื้อครีมกันแดดสำหรับผิวกายมาแนะนำกันค่ะ

ก่อนอื่นนั้นจะต้องพิจารณาจากพฤติกรรมของคุณเองเสียก่อนว่าจะซื้อครีมกันแดดไปใช้ในกิจกรรมแบบใด เช่น ใช้ในกิจวัตรประจำวัน ทำงาน เข้าเรียน เดินห้างสรรพสินค้า ถ้าหากว่ากิจกรรมของคุณเป็นแบบนี้ก็ควรที่จะเลือกซื้อครีมกันแดดที่มีคุณสมบัติเนื้อครีมที่มีความบางเบา ไม่ทำให้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะเลือก SPF ไม่ต้องสูงมากนัก เพราะไม่ค่อยเผชิญกับแสงแดดโดยตรง แต่ถ้าหากกิจกรรมของคุณจะต้องออกกลางแดด เล่นกีฬากลางแจ้ง ปลูกต้นไม้ เล่นน้ำทะเล หรือมีกิจกรรมที่ต้องเสียเหงื่อมากก็ควรที่จะเลือกซ้อครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงๆสักหน่อย ซึ่งครีมกันแดดแบบนี้จะมีเนื้อครีมที่เหนียวกว่าปกติสักหน่อย ทั้งนี้ก็เพื่อประสิทธิภาพในการทำงานของครีมกันแดดนั่นเองค่ะ

ซึ่งความแตกต่างของครีมกันแดดจะเห็นว่าแบ่งตามกิจกรรมที่คุณต้องทำในแต่ละวัน ถ้าหากว่าใช้ครีมกันแดดสำหรับกิจกรรมพิเศษที่มีเหงื่อมากก็จะทำให้คุณเกิดความรู้สึกเหนอะหนะ ถ้าหากคุณจะใช้ชีวิตธรรมดา เช่น ไปทำงาน ไปเดินห้างสรรพสินค้า เห็นแบบนี้แล้วเริ่มเข้าใจแล้วใช่ไหมละค่ะว่าการเลือกใช้ครีมกันแดดที่เหมาะสมนั้นมีประโยชน์หรือมีข้อดีอย่างไร อย่างไรก็ตามก่อนการเลือกซื้อครีมกันแดดก็อย่าลืมทดสอบอาการแพ้ที่อาจเกิดขึ้นด้วยจะดีที่สุดค่ะ

อันตรายจากแสงแดดในทุกวันนี้นับจะทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกวันแล้วค่ะ เพราะฉะนั้นเราควรที่จะรีบหันกลับมาดูแลตนเองเสียใหม่สักที เพราะถ้าหากว่าช้าเกินไปก็อาจจะไม่ทันการณ์ก็ได้ ดังนั้นเราจึงได้นำเอาอีกหนึ่งวิธีการดูแลผิวกายของคุณเองมาฝากกัน สำหรับใครที่ไม่อยากมีผิวกายที่ดำคล้ำเสียสะสมก็ควรที่จะอ่านด่วนเลยค่ะ

วิธีการทาครีมกันแดดสำหรับผิวกายให้ได้ผลก็ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คุณคิดหรือกังวล เป็นเพียงวิธีง่ายๆที่คุณก็สามารถทำได้ค่ะ คุณควรเลือกซื้อครีมกันแดดสำหรับผิวหายที่มีค่า SPF ที่มีความเหมาะสม ควรเริ่มใช้ครีมกันแดดตั้งแต่ค่า SPF 15 ขึ้นไป แต่ไม่ควรเกิน SPF 30 เพราะมันจะเกินความจำเป็นและเปลืองเงินซื้ออีกด้วย ครีมกันแดดที่คุณเลือกซื้อนั้นจะต้องสามารถป้องกันได้ทั้งรังสี UVA และ UVB เพื่อการป้องกันแสงแดดทุกชนิด เพราะมีผลิตภัณฑ์กันแดดบางตัวสามารถป้องกันรังสีได้เพียงชนิดเดียว ควรเริ่มทาครีมกันแดดตั้งแต่ช่วงเวลา 8.00 น.เป็นต้นไป เพราะแสงแดดจะแรงขึ้นหลัง 9.00 น. และควรทาครีมกันแดดหนากว่าปกติที่เราทาโลชั่นบำรุงผิวสักหน่อย ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดด

คุณควรเริ่มทาครีมกันแดดก่อนที่จะออกเผชิญแสงแดดนานประมาณ 30 นาที เพื่อให้เนื้อครีมซึมเข้าสู่ผิวหนังกำพร้าของเรา จะได้มีประสิทธิภาพในการทำงานดียิ่งขึ้น คุณควรทาครีมกันแดดบ่อยๆประมาณ 2-3 ชั่วโมงครั้ง เพราะครีมกันแดดอาจจะหลุดออกจากผิวหนังตาเหงื่อแล้วก็เป็นได้ นอกจากนี้แล้วควรใช้อุปกรณ์ป้องกันแสงแดดอย่างอื่นร่วมด้วย เพื่อที่จะช่วยป้องกันแสงแดดให้เบาบางลงไปได้ และป้องกันแสงแดดสัมผัสกับใบหน้าโดยตรง เช่น ร่ม หมวก ผ้าคลุม เป็นต้น

แน่นอนว่าผิวพรรณของเราแต่ละคนนั้นมีความแตกต่างกันออกไป เพราะฉะนั้นจะเลือกใช้ครีมบำรุงอะไรก็ต้องพิจารณาถึงสภาพผิวพรรณของตนเองเสียก่อนว่า สภาพผิวของคุณนั้นเป็นอย่างไร ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะเลือกใช้ครีมบำรุงหรือครีมกันแดดได้ถูกต้องตามสภาพผิว และวันนี้เราก็มาพร้อมกับอีกหนึ่งวิธีการดูเลือกซื้อครีมกันแดดตามลักษณะผิวพรรณของแต่ละคนมาฝากกันค่ะ

เริ่มต้นที่ผู้ที่มีสภาพผิวแบบธรรมดา สามารถที่จะเลือกใช้ครีมกันแดดแบบเนื้อโลชั่นจะดีที่สุด เพราะมีส่วนผสมของน้ำมากกว่าน้ำมัน ถ้าหากสำหรับผู้ที่มีสภาพผิวมัน ควรเลือกเนื้อครีมแบบเนื้อเจล หรือซิลิโคน เพราะไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน ทำให้ไม่เพิ่มความมันให้กับผิว แต่ถ้าหากว่าคุณเป็นคนที่มีผิวแห้งก็ควรเลือกใช้ครีมกันแดดแบบเนื้อครีมจะดีที่สุด เพราะมีส่วนผสมของน้ำมันมาก ทำให้เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวพรรณ แต่ถ้าหากผิวแห้งมากๆก็ควรที่จะใช้ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของน้ำมันค่อนข้างเยอะสักหน่อย หรือถ้าใครที่สภาพผิวแพ้ง่ายก็ควรที่จะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อบางเบา ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว ซึ่งเป็นเซรั่มเนื้อบางเบาจะดีที่สุค่ะ

ซึ่งการเลือกซื้อครีมกันแดดสำหรับผิวกายให้เหมาะกับสภาพผิวของคุณเอง จะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของครีมกันแดดนั้นดียิ่งขึ้นกว่าเดิม และช่วงป้องกันผิวพรรณจากแสงแดดได้เป็นอย่างดี แล้วคุณละคะทดสอบกันหรือยังว่าตัวเองนั้นมีสภาพผิวแบบไหนและเหมาะกับครีมกันแดดแบบใด สำหรับใครที่ยังไม่เคยได้ใช้ครีมกันแดดมาก่อนก็อย่าลืมที่จะเลือกซื้อให้เหมาะสมกับสภาพผิว และควรเริ่มใช้ค่า SPF 15 ก่อนจะดีที่สุดค่ะ

เชื่อว่าหลายคนที่มีคำถามที่น่าสงสัยถามอยู่ในใจว่า เมื่อเราใช้ครีมกันแดดไปแล้วมันจะทำให้เราขาวขึ้นจริงหรือเปล่า ซึ่งเป็นคำถามที่สาวๆหลายคนให้ความสำคัญ เพราะบางคนเมื่อใช้ครีมกันแดดไปสักระยะเริ่มรู้สึกว่าตัวเองมีผิวกายที่ขาวกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น ความจริงจะเป็นอย่างไรนั้นตามไปดูกันค่ะ

ความจริงแล้วครีมกันแดดที่ใช้แล้วทำให้ผิวขาวขึ้นนั้นเป็นบางยี่ห้อเท่านั้น ซึ่งต้องพิจารณาจากส่วนผสมที่ครีมกันแดดยี่ห้อนั้นๆใส่ลงไป ซึ่งครีมกันแดดบางยี่ห้ออาจมีการผสมครีมบำรุง หรือสารบำรุงผิวบางอย่างที่สามารถช่วยกันแดดและบำรุงผิวไปด้วยในตัว ทำให้เมื่อใช้จึงรู้สึกว่าผิวพรรณมีสุขภาพที่ดีและขาวกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น หรือในครีมกันแดดบางยี่ห้องอาจจะมีการผสมสารที่มีคุณสมบัติช่วยในการสะท้อนแสง ทำให้ผิวพรรณไม่โดนทำร้ายโดยตรงจากแสงแดด จึงไม่ทำให้ผิวเกิดความหมองคล้ำใหม่ และช่วยทำให้ได้รับการบำรุงไปในตัวอีกด้วย แต่สำหรับครีมกันแดดบางชนิดไม่ได้มีการผสมสารบำรุงผิวแต่อย่างใด ก็จะไม่ทำให้ผิวพรรณของคุณขาวขึ้นกว่าเดิม แต่จะช่วยป้องกันผิวไม่ให้คล้ำเสียจากแสงแดดกว่าเดิม หรือเรียกง่ายๆว่าไม่ขาวขึ้นและไม่ดำลงนั่นเองค่ะ

อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป้นครีมกันแดดแบบใดก็สามารถที่จะป้องกันแดดไม่ให้เข้ามาทำลายผิวพรรณของคุณได้โดยตรง ทำให้คุณปลอดภัยจากโรคมะเร็งผิวหนัง ที่หลายคนเกิดความหวาดกลัว เพราะความรุนแรงของแสงแดดที่เปลี่ยนแปลงไปนั่นเอง เพราะฉะนั้นทางที่ดีไม่ว่าคุณจะไปไหนก็พยายามอย่าลืมใช้ครีมกันแดดทาประจำอย่างสม่ำเสมอนะคะ เพื่อสุขภาพผิวกายของคุณเอง

ส่วนใหญ่สาวๆจะมีกิจกรรมพิเศษในช่วงบ่ายๆหรือเย็นๆในกลุ่มของตัวเอง ซึ่งการอาจจะเป็นกิจกรรมที่ส่งผลดีต่อสุขภาพ เช่น การออกกำลังกาย เป็นต้น ซึ่งการออกกำลังกายที่คุณจะต้องลงสระว่ายน้ำหรือการว่ายน้ำสิ่งที่คุณขาดไม่ได้เลยก็คือครีมกันแดดค่ะ ในบางรายอาจจะเป็นการลงเล่นน้ำทะเลในช่วงวันหยุด วันพักผ่อนของคุณเอง ก็ไม่ควรมองข้ามครีมกันแดดเด็ดขาด เพราะถ้าไม่เช่นหน้าใบหน้าที่ขาวใสของคุณอาจจะต้องหมองคล้ำเพราะแสงแดดโดยที่คุณไม่สามารถแก้ไขอะไรได้

โดยปกติแล้วเมื่อคุณต้องมีกิจกรรมที่ต้องลงน้ำ เล่นน้ำ ซึ่งช่วงเวลาที่คุณทำกิจกรรมเหล่านั้นเป็นช่วงก่อน 15.00 น. ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ยังคงมีแสงแดดที่ร้อนแรงอยู่ เพราะฉะนั้นการทาครีมกันแดดก่อนลงเล่นคือสิ่งสำคัญ เพราะเมื่อผิวที่โดนน้ำ พบเจอกับแสงแดดจะทำให้เกิดความหมองคล้ำเร็วกว่าปกติทั่วไป คล้ำเสียง่าย จนถึงขั้นผิวลอกเลยก็มี ซึ่งก่อนที่คุณจะลงเล่นน้ำก็ควรที่จะทาครีมกันแดดก่อนลงน้ำประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อรอให้ครีมกันแดดซึมเข้าผิวหน้าและผิวกายอย่างเต็มที่ รอให้ครีมกันแดดเกาะผิวกำพร้าได้ดีเสียก่อนที่จะเริ่มลงเล่นน้ำ ถ้าหากว่าทาครีมกันแดดแล้วลงเล่นน้ำเลยก็จะไม่เกิดประโยชน์อะไรค่ะ เพราะครีมกันแดดจะละลายออกเสียหมด

ก่อนที่คุณจะเลือกใช้ครีมบำรุงหรือเครื่องสำอางสักอย่างสิ่งที่คุณต้องระลึกถึงก่อนเป็นอย่างแรกเลยก็คือความปลอดภัยในการใช้ผลิตภัณฑ์นั้นๆว่ามีความปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน จะทำให้คุณเกิดอาการแพ้หรือไม่อย่างไร แล้วเมื่อใช้ไปนานๆจะมีผลข้างเคียงอะไรหรือเปล่า ซึ่งทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง เพราะใบหน้าคือสิ่งที่สำคัญที่สุดนั่นเองค่ะ วันนี้เราจึงมาพร้อมกับวิธีการเลือกครีมกันแดดที่ปลอดภัยมาฝากกันค่ะ

ครีมกันแดดที่ควรซื้อมาใช้คุณจะต้องมั่นใจว่าไม่มีส่วนผสมที่จะทำให้คุณเกิดสิว ซึ่งสาเหตุของการเกิดสิวส่วนใหญ่มักจะมาจากน้ำมันบางชนิดที่อาจจะทำปฏิกิริยากับใบหน้าจนเกิดสิว เช่น น้ำมันมะพร้าว หรือสารบางอย่างที่ผู้ใช้อาจมีอาการโดยตรง ซึ่งทางที่ดีควรจะต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านของผิวหนัง เพื่อจะได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งอาจจะมีการตรวจสภาพของผิวก่อน เพื่อที่จะเลือกครีมกันแดดที่เหมาะสมกับสภาพผิวหน้าของเรามากที่สุด เพราะบางคนมีสภาพผิวหน้ามัน แต่กลับใช้ครีมกันแดดที่เหมาะสำหรับคนหน้าแห้งก็อาจจะทำให้ได้ประโยชน์จากครีมกันแดดไม่เต็มที่มากนัก ควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีลักษณะของเนื้อบางเบา เช่น เจล หรือ เซรั่ม ทั้งนี้ก็เพื่อไม่ให้เกิดความอุดตันกับรูขุมขน และไม่ทำให้ผิวเกิดความระคายเคือง ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ผิวบอบบาง

สำหรับสาวๆคนไหนที่มีผิวแห้งหรือผิวผสม ควรจะเลือกซื้อครีมกันแดดที่มีลักษณะของเนื้อโลชั่น หรือเนื้อครีม ที่มีความเข้มข้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวพรรณ ไม่ทำให้ผิวแห้งกร้าน เนียนนุ่ม น่าสัมผัส และไม่เกิดลอกเป็นขุยสร้างความรำคาญใจให้กับสาวๆผิวแห้งในยามที่ต้องแต่งหน้า