ปัญหาคาใจสำหรับหลาย ๆ คนที่กำลังประสบปัญหากับฝ้าที่ค้างคาใจกันมามากว่าไม่มีวิธีทางธรรมชาติเลยหรือ หลายคนไม่อยากเสี่ยงจากผลข้างเคียงของเทคนิควิธีการรักษาโดยเทคโนโลยีต่าง ๆ แต่ก็เลี่ยงที่จะไม่รักษาไม่ได้ เพราะฝ้าไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบด้านความงามเท่านั้น ยังส่งผลทำให้จิตตกกับปัญหาที่ตามมาอีกด้วยเช่น ภาพลักษณ์ของผู้ที่ทำงานด้านบริการ แต่วันนี้เรามาไขข้อข้องใจว่าวิธีทางธรรมชาติรักษาฝ้าได้หรือไม่
การรักษาฝ้าด้วยสมุนไพร
1.ขมิ้นชัน
นำขมิ้นสดบดละเอียด หรือเลือกใช้ผงขมิ้นชัน ผสมกับนมสดเล็กน้อยพอให้ส่วนผสมเข้ากันเป็นเนื้อครีม นำมาขัดให้ทั่วใบหน้า หรือเฉพาะบริเวณที่เป็นฝ้า แล้วพอกทิ้งไว้อีกประมาณ 15-20 นาที จึงล้างออกให้สะอาด สูตรนี้ช่วยลดรอยดำจากฝ้าได้เป็นอย่างดีเพราะในขมิ้นมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยกำจัดสิ่งแบคทีเรีย สิ่งสกปรกและรอยดำคล้าให้สว่างกระจ่างใสขึ้น ทั้งยังช่วยสมานผิวให้เนียนนุ่มน่าสัมผัส แบวกกับกรดแลกติกที่มีอยู่ในนมที่ช่วยในเรื่องของความขาวอยู่แล้ว และควรทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
2.หอมแดง
ในหัวหอมสด ๆ จะมีน้ำมันหอมระเหยเป็นส่วนประกอบอยู่ด้วย ซึ่งประกอบไปด้วยสารที่มีคุณสมบัติในการยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ทำให้สิวยุบลง และช่วยลดเลือนรอยฝ้า กระให้จางลงได้เป็นอย่างดี เช่น ไดอัลลิน ไตรซัลไฟต์ โดยฝานหอมแดงสดเป็นแว่นบาง ๆ หรือทุบให้มีน้ำออกมา นำมาถูตรงบริเวณที่เป็นฝ้า และทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วจึงล้างออกให้สะอาด สูตรนี้สามารถทำได้เป็นประจำทุกวัน และควรทำช่วงก่อนนอน
3.ว่านหางจระเข้
ว่านหางจระเข้มีสรรพคุฯช่วยให้รอยฝ้า กระลดเลือน และจางลงทั้งยังช่วยให้ผิวหน้าชุ่มชื้นขึ้นมาก ช่วยฟื้นฝฟูอาการปวดแสบปวดร้อนจากการโดนแลงแดดได้เป็นอย่างดี โดยจะใช้ว่านหางจระเข้ต้นที่แก่ที่สุดอยูใบล่างๆ ตัดโดนออกแล้วนำไปล้างให้สะอาด และแช่น้ำทิ้งไว้ 10 นาที จากนั้นนำมาปอกเปลือกออกจนได้เนื้อใส ๆ สับให้ละเอียด นำมาผสมน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา พอกให้ทั่วใบหน้า หรือบริเวณที่เป็นฝ้า ทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด สูตรนี้ก็สามารถทำได้ทุกวัน
เป็นยังไงบ้างคะสูตรสมุนไพร หรือสูตรธรรมชาติที่เรานำมาฝากกัน สำหรับใครที่กลัวกับผลข้างเคียง หรืออันตรายจากการใช้สารเคมีในการรักษาฝ้า วิธีโดยธรรมชาตินี้นับว่าเป็นทางเลือกที่ดีทีเดียวและได้ผลเป็นอย่างดีเมื่อทำบ่อย ๆ รับประกันได้เลยว่ารอยฝ้าลดเลือน และจางลงอย่างแน่นอน